top of page

เมื่อความสูญเสียทำให้เราเสียศูนย์

12/11/2564

5 stage of Grief.png

สิ่งหนึ่งที่ชีวิตมนุษย์เราไม่อาจเลี่ยงได้ นั่นคือเรื่องของ “ความสูญเสีย” ไม่ว่าจะสูญเสียงานที่ทำอยู่ ของที่รัก หรือกระทั่งคนสำคัญในชีวิตไม่ว่าจะจากเป็นหรือจากตาย เมื่อใดก็ตามที่เราเห็นข่าวหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับการสูญเสีย เราจะเห็นว่าผู้สูญเสียมีปฏิกิริยาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแตกต่างกันไป บางคนอาจช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนแน่นิ่งไป บางคนอาจโมโห โกรธ และโทษว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะโชคชะตาพลิกผัน หรือแม้กระทั่งโยนความผิดให้ใครสักคนอย่างไม่สมเหตุสมผล ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้มีแนวคิดมากมายที่สามารถนำมาอธิบายได้ แต่ในครั้งนี้เราจะมาอธิบายด้วยขั้นตอนในการรับมือความสูญเสีย (Stage of grief) โดย Elisabeth Kübler-Ross จิตแพทย์ชาวสวิส-อเมริกัน ซึ่งกล่าวถึงการรับมือกับความเศร้าโศก มีทั้งหมด 5 ระยะ ดังต่อไปนี้ (ทิพย์สุดา สำเนียงเสนาะ, 2556; Casabianca, 2021; Kübler-Ross & Kessler, 2005)

 

ปฏิเสธ (Denial)

 

“ผู้คนต่างบอกฉัน
ก็บอกว่ามันนานแล้ว
ที่เธอได้จากลาฉัน
ควรจะรับมัน รับความเป็นจริงสักที
เพราะมันผ่านมาเนิ่นนานจนป่านนี้
กี่คนที่เขาคอยเตือน”

 

ระยะนี้เป็นระยะที่ค่อนข้างสำคัญ เพราะเป็นตัวช่วยให้เรารับมือกับความสูญเสียในขณะที่จิตใจของเรายังไม่พร้อม โดยเราจะรู้สึกสับสน มึนงง ปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นกลไกการป้องกันตนเอง (Defense mechanism) ที่ทำให้เรายังไม่ต้องเผชิญความจริงอันเลวร้ายและความรู้สึกที่แท้จริงของเรา

 

โกรธ (Anger)

“จะโทษดิน จะโทษน้ำ
จะโทษเดือนและดาว
กับเรื่องราว ที่ปวดร้าว
ที่เธอมาทำแล้วหนีไป”


ความรู้สึกโกรธก็เป็นความรู้สึกหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อเราต้องเผชิญกับความสูญเสีย เราอาจพยายามโทษว่าเป็นความผิดของใครสักคน หรือเป็นเพราะโชคชะตา ดินฟ้าอากาศ พระเจ้า หรืออะไรก็ตามตามความเชื่อของแต่ละคน  ตัวความโกรธเองก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวร้ายหรือต้องกำจัดมันออกเสมอไป แต่เราต้องพยายามควบคุมมันให้ได้ หาทางระบายความโกรธที่เหมาะสม เช่น ระบายให้เพื่อนฟัง ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน หรือออกกำลังกาย หากเราไม่รู้เท่าทันตัวเอง ความโกรธของเราอาจไปสร้างบาดแผลในใจให้คนอื่น ๆ โดยไม่ได้ตั้งใจได้เช่นกัน

ต่อรอง (Bargain)

“ได้แต่สงสัยว่าถ้าวันนั้นฉันไม่ทำเธอเสียใจ”

เข้าสู่ระยะที่เราเริ่มรับรู้การสูญเสีย แต่อยากให้อะไร ๆ มันกลับไปเป็นเหมือนเดิม ทำให้ระยะนี้เราจะวนเวียนอยู่กันคำว่า “ถ้า” (What if?)  เราจะพยายามจินตนาการว่าถ้าฉันทำแบบนั้น ถ้าฉันรู้เร็วกว่านี้ ก็คงไม่เกิดความสูญเสียขึ้น  จะเห็นได้ว่าระยะนี้อาจพ่วงมากับความรู้สึกผิดนั่นเอง
 

ซึมเศร้า (Depression)

“ทำไมแค่ลมเพียงแผ่วเบายังทำให้เหน็บหนาว
แค่เพียงแผ่นฟ้าที่ว่างเปล่ายังทำให้มีน้ำตา
ทำไมมันช่างเปราะบางเหลือเกิน
อ่อนแอจนเกินจะเข้าใจ”


สำหรับระยะนี้ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าซึมเศร้าในที่นี้ไม่ได้หมายถึงปัญหาทางสุขภาพจิตแต่อย่างใด แต่เป็นระยะที่แสดงถึงการเผชิญหน้ากับความเป็นจริงมากขึ้น ความรู้สึกที่แท้จริงของเราเริ่มปรากฏ เราจะรู้สึกเศร้า และอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ไม่อยากอาหาร เซื่องซึม สิ่งที่เคยทำแล้วมีความสุขมาตอนนี้มันกลับไม่สนุกเสียแล้ว โดยอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น และเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเมื่อเราต้องเผชิญกับการสูญเสีย

 

ยอมรับ (Acceptance)

“เรามาไกลเท่านี้ก็ดีเหลือเกิน
ขอบใจนะที่เคยมีกัน
มันถึงเวลายอมรับความจริง
เรามาไกลเท่านี้ก็เกินที่ฝัน ตั้งเท่าไร
เมื่อชีวิตคือความเป็นไป
สุดท้ายก็ต้องจากกัน เท่านั้นเอง”


หากเปรียบเทียบทุกระยะที่ได้กล่าวมาเป็นการเดินทาง ระยะนี้ก็เปรียบเสมือนจุดหมายปลายทางของเรานั่นเอง เมื่อเรายอมรับการสูญเสียมันไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเราเข้าสู่ระยะนี้เราจะยอมรับความเป็นจริงได้แล้วว่าเราสูญเสียสิ่งนั้นไปจริง ๆ ไม่ว่าจะทำอย่างไร พยายามขนาดไหนก็ไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้


อีกสิ่งสำคัญที่เราต้องทำความเข้าใจนั่นคือการรับมือกับความเศร้าโศกของมนุษย์แต่ละคนนั้นอาจไม่ได้เป็นไปตามขั้นตอนเสมอไป ขั้นตอนอาจสลับไปมาและไม่จำเป็นต้องผ่านทุกระยะจึงจะเข้าสู่ระยะยอมรับได้ หรือต่อให้เรายอมรับกับการสูญเสียได้แล้ว มันก็ยังมีโอกาสที่เราจะกลับไปสู่ระยะซึมเศร้า หรือระยะอื่น ๆ ได้อีกเช่นกัน มากไปกว่านั้นบางคนอาจมีวิธีรับมือที่นอกเหนือจาก 5 ระยะนี้ไปเลยก็ได้ แต่แนวคิดขั้นตอนในการรับมือความสูญเสีย (Stage of grief) จะเป็นกรอบเบื้องต้นที่ช่วยให้เราเข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น แล้วหาทางรับมือสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น (Kübler-Ross & Kessler, 2005; Misconceptions about the five stages of grief, n.d.) แต่ต้องระลึกไว้เสมอว่า “การเข้าใจ ≠ การเห็นด้วยกับสิ่งที่เขากระทำ” ในบางครั้งผู้สูญเสียอาจอยู่ในระยะโกรธแล้วนำเอาอารมณ์นั้นมาลงกับเราหรือคนรอบตัว ซึ่งมันก็ไม่ผิดอะไรถ้าเราจะรู้สึกโกรธ รู้สึกไม่เป็นธรรม แต่เราจะเข้าใจว่านี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์

 

อย่างไรก็ตาม ไม่มีสิ่งใดๆ ในโลกนี้ที่อยู่กับเราไปได้ตลอดแม้แต่ตัวเราเอง การสูญเสียอาจเกิดขึ้นกับเราหรือคนรอบตัวเราเมื่อไหร่ก็ได้ สิ่งที่ตามมาคืออารมณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์เศร้า โกรธ อาลัยอาวรณ์ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องปกติ เราไม่จำเป็นจะต้องพยายามกำจัดหรือเก็บกดมันเอาไว้ เราเพียงแค่พยายามทำความเข้าใจ ปลดปล่อยอารมณ์ออกมาในวิธีที่เหมาะสม และเมื่อใดที่ความรู้สึกมันหนักหนามากเกินกว่าที่ตัวเราจะรับไหว ให้ระบายความรู้สึก ระบายความอัดอั้นของเราให้เพื่อนหรือคนรอบตัวเราฟัง อย่าเก็บไว้คนเดียว หรือจะพบจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยาเพื่อช่วยกันประคับประคองให้ตัวเราก้าวผ่านความสูญเสียนี้ไปก็ได้ ในทางกลับกันถ้าคนรอบตัวเรากำลังเผชิญกับความสูญเสียแล้วเขาหันมาพึ่งเรา สิ่งที่เราทำได้คือการรับฟังและอย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าเขาอยู่ในระยะใด (ทิพย์สุดา สำเนียงเสนาะ, 2556; Casabianca, 2021) เพราะพฤติกรรมที่ผู้สูญเสียแสดงออกมา บางครั้งอาจดูผิวเผินเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ภายในอาจบอบช้ำและเต็มไปด้วยบาดแผลที่ไม่รู้ว่าจะรักษายังไงได้เช่นกัน

อ้างอิง

ทิพย์สุดา สำเนียงเสนาะ. (2556). การเผชิญกับภาวะสูญเสียและเศร้าโศก. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 21, 661–666.

Casabianca, S. S. (2021, February 11). Mourning and the 5 stages of grief. https://psychcentral.com/lib/the-5-stages-of-loss-and-grief
 

Kübler-Ross, E., & Kessler, D. (2005). On grief and grieving: Finding the meaning of grief through the five stages of loss. Simon and Schuster.
 

Misconceptions about the five stages of grief (n.d.). Grief.com. https://grief.com/misconceptions/

ผู้เขียน

รมัณยา นาคโสมกุล

รมัณยา นาคโสมกุล

นักศึกษาสาขาวิชาจิตวิทยา

สนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ สนใจเรื่องราวความสัมพันธ์ของมนุษย์ ความสุขคือสุนัขและการนอนเร็วเพราะจะได้กินข้าวเช้าไวๆ

ออกแบบกราฟิก

พัชริดา วงศ์กมลาไสย

พัชริดา วงศ์กมลาไสย

นักศึกษาสาขาวิชาจิตวิทยา

ผู้รักสันโดษ และติดอยู่ใน safe zone ตัวเอง คติประจำใจ “ช่วงโควิดน่าเบื่อหน่าย เรียนออนไลน์น่าเบื่อกว่า”

สาขาวิชาจิตวิทยา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สาขาวิชาจิตวิทยา คณะศิลปศาสตร์

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต

99 หมู่ 18 ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง

อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12121

โทร.: 02 696 5660

อีเมล: psychology@tu.ac.th

  • Instagram
  • YouTube
bottom of page